กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 23 ก.ค. 2568

23 ก.ค. 2025

Day โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาน้ำมันเคลื่อนตัวออกข้าง บริเวณ กรอบ 65.500-69.500 ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ที่ 4 วานนี้ราคาน้ำมันปรับตัวลงเล็กน้อย (ติดต่่อกัน 3 วัน) หลังจากการยังไม่บรรลุผลการเจรจาการค้า ระหว่าง สหรัฐ – ยุโรป ความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจึงมีมากขึ้น ในขณะที่เหลืออีก 9 วันก่อนกำหนดเส้นตายทางภาษีสหรัฐ ปิดแท่งรายวัน Bearish Hammer Pin Bar

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดตลาดที่ 66.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.47% จากวันก่อนหน้า

การเจรจาการค้า สหรัฐ – ยุโรปยังหาข้อสรุปไม่ได้ …. กดดัน USD และ น้ำมัน

  • ทรัมป์ ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้า ยุโรป เป็น 30% เริ่ม 1 ส.ค. นอกจากนี้ยังเรียกเก็บภาษี อุตสหกรรมเพิ่มเติม เหล็กและรถยนต์ (Section 232) และไฟฟ้า (fentanyl-related) รวมแล้วสูงถึง 25–50%  
  • EU เดินหน้าเจรจา ต่อ แต่ได้เตรียมเครื่องมือตอบโต้แบบครบวงจร (“anti‑coercion instrument”) ACI  ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรบริการสหรัฐฯ, ดึงสินค้าออกจากโปรเจกต์จัดซื้อภาครัฐ(ห้ามสหรัฐเข้าประมูล)  และจำกัดการลงทุนจากสหรัฐ  และกีดกันตลาดบริการดิจิทัจจากสหรัฐ หากสหรัฐไม่ยอมถอย

ทรัมป์ประกาศการเจรจาการค้าสำเร็จอีก 2 ประเทศ … ่ปัจจัยบวกต่อ USD และน้ำมัน

  • สหรัฐ- ญี่ปุ่น  :   22 ก.ค. ทรัมป์ยืนยัน การเจรจาการค้า สหรัฐ – ญี่ปุน บรรลุแล้ว โดย สินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น สหรัฐ คิดภาษี 15 % (จาก 25%) ญีปุ่นยืนยัน จะลงทุน ในสหรัฐ 550,000 ล้านดอลลาร์ โดยญี่ปุ่น จะเปิดตลาด กลุ่มสินค้าสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ รถบรรทุก ข้าว และผลิตภัณท์ การเกษตรบางชนิด
    *** เพิ่มการแข่งขันการส่งออกให้ ญีุุ่ปุ่นอีกครัั้ง
    – รถยนต์นำเข้าจากญี่ปุ่น ภาษี 15 %
    – รถยนต์นำเข้าเงื่อนไข USMCA
    รถนำเข้าจากแม็กซิโก ภาษี 30% USMCA เหลือ 12%
    รถนำเข้าจากแคนาดา ภาษ๊ 35% USMCA เหลือ 10.5%
    ***ติดตามท่าทีของ นายก Ishiba หลังจากการเลือกตั้งวุฒิสภาในวันอาทิตย์ที่ผานมา ซึ่ง ทำให้ Ishiba สูญเสียสียงข้างมาในวุฒิสภา การเมืองไปสูความไม่แน่นอนซึ่งอาจจะต้อง ลาออก หลังจากการเจรจาการค้าที่สำเร็จลุล่วงลงแล้ว
  • สหรัฐ- ฟิลิปปินส์  :  ทรัมป์ประกาศ ภาษีใหม่ ฟิลิปปินส์ 19% (จาก 20%) หลังการเดินทางเยิอนสหรัฐ ประธานาธิปดี เฟอร์ดินาน มาร์กอส จูเนีย วานนี้ ซึ่งถือได้ว่าอยู่ในระดับเดี่ยวกับ อินโดนิเซีย นอกจากจะมีการพูดคุยเรื่องการเจรจาการค้าแล้วยังมี หัวข้อ การประสานมือด้านความมั่นคงกลาโหม
    – การร่วมฝึก ทางทหาร –ฝึกอาวุธ กองทัพสหรัฐ Modernize และ ฟิลิปปินส์
    – โครงการณ์ EDCA อนุญาติให้สหรัฐเข้าถึง ฐานทัพในฟิลิปินส์
  • สหรัฐ- อินโดนิเซีย :  อินโดนิเซียประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ มากกว่า 99% และยกเลิกมาตราการกีดกันทางการค้าทีไม่ใช่ภาษีทั้งหมดให้กับบริษัทสหรัฐ สินค้านำเข้าจากอินโดนิเซียในสหรัฐ  19%

ทรัมป์ประกาศการเจรจาการค้าคาดว่าจะสำเร็จอีก 2 ประเทศ … ่ปัจจัยบวกต่อ USD และน้ำมัน

  • สหรัฐ- อินเดีย :  ทรัมป์ย้ำการเจรจา กับอินเดีย รอบที่ 5  (17 ก.ค.) ใกล้บรรลุข้อตกลงการค้า กับสหรัฐใหม่ ในขณะที่อินเดีย คาดหวังผลการเจรจาดีกว่า อินโดนิเซีย 19 %  (2 เม.ย. ภาษีตอบโต้เฉพาะประเทศ 27%)
    – อินเดีย ยอมรับผลิตภัณท์อาหารสัตว์ทีได้จากพืช(ดัดแปลงทางพันธุกรรม)
    – อินเดีย ยังคงห้ามอย่างเข้มข้น การนำพืช(ดัดแปลงทางพันธุกรรมมา)ใช้ในการบริโภคโดยตรง เพื่อป้องกันตลาด EU
  • สหรัฐ- จีน  :  จากข้อตกลง ในลอนดอน กลางเดือน พ.ค. เห็นชอบระงับภาษีนำเข้าระหว่างกัน 90 วัน สิ้นสุด 12 ส.ค. (ต่างฝ่ายต่างต้องยกเลิก ข้อกีดกัน ภารนำเข้าแร่ rare earth ไปสหรัฐ และ การนำเข้าชิป และ IT ไปจีน)  การเจรจากครั้งใหม่เริมต้นในอาทิตย์หน้า  ทรัมป์ แถลง จะเดินทางไปจีน เอง เพือคลี่คลาย ความตึงเครียสทางการค้า นอกจากนี้จะเยือน การประชุม”ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เอเซีย-แปซิฟิก (APEC) .ในวันที่ 30 ต.ค.- 1 พ.ค. อีกด้วย

AIP Report ปริมาณนำ้มันดิบคงคลัง ลดดลง … ่ปัจจัยบวกต่อน้ำมัน

  • US API Weekly Report รายงาน
    – ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังลดลง 577,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น
    – ปริมาณ เบนซิน ลดลง -1.2 ล้านบาร์เรล è สะท้อนความต้องการน้ำมันในระดับสูง
    – ปริมาณ ดีเซล เพิ่มขึ้น +3.48 ล้านบาร์เรล è สะท้อนภาคการผลิตและขนส่ง ยังไม่ขยายตัวเต็มที่ 
  • ติดตามประกาศตัวเลขน้ำมันคงคลัง จาก EIA ในคืนนี้ ซึ่งหากผลสอดคล้องกับ API จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

ทรัมป์เดินหน้ากระบวนการปลดเฟด … สร้างความผันผวนให้ กดดัน USD ปัจจัยบวกต่อ น้ำมัน (ในฐานะสินทรัพย์จับคู่ USD)

  • สก็อตเบสเชนต์ รมต คลัง ยืนยัน “สนับสนุน นายเจอโรม พาวเวลล์” ท่ามกลาง การวิจารณ์ของทรัมป์ และรัฐบาลทรัมป์
  • แม้ว่าทรัมป์จะกล่าว ไม่มีแผนในการปลดเฟด ในวันพฤหัสสัปดาห์ที่ผานมา
    – 21 ก.ค. มีการเดินหน้าพิจารณาปลดเฟด อย่างต่อเนื่อง
    นางแอนนา พอลินา ลูนลา ส.ส. รีพับพลิกันฟอลิดา ส่งเรื่องถึงกระทรวจยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ให้สอบสวนพาวเวลล์ ประธานเฟด ในข้อหา “ให้การเท็จ” ระหว่างการให้การกับ renovate ตึกธนาคารกลางสหร
  • การให้มีการสอบสวนเชิงลึก “การดำเนินงานของ เจอโรม พาวเวล ที่นอกเหนือ นโยบายทางการเงิน (non – monetary operations) เพื่อป้อง mission creep : การขยายขอบเขตภารกิจโดยไม่จำเป็น ซึ่งเป็นอันตรายต่ออิสระของภารกิจนโยบายเงินหลัก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่สมเหตุสมผล และบดบังความเป็นอิสระที่มีคุณค่าของเฟดในด้านนโยบายการเงินโดยไม่จำเป็น” ซึ่งหากผลการตัดสินออกมาผิดจริง จะส่งผลให้นาย พาวเวลล์ พ้นจากตำแหน่งประธานธนาคารเฟดก่อนกำหนด โดยทันที

H4/H1  โครงสร้าง H4 สิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาน้ำมันไม่สามารถผ่าน โซน QM บริเวณ แนวต้าน 67.084-67.488 ขึั้นไปได้ซึง่เป็น Price Action Quasimodo Pattern ทั้งนี้จุด BOS 64.394 เป็นจุดยืนยันเทรดน์ขาลง หากราคาสามารถปิดต่ำกว่าราคานี้ได้

คำแนะนำ

  • เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)กรอบ 65.213 – 65.521 / SL 65.800 เพื่อทำกำไร 65.074/64.997/64.928/64.733/64.619/64.553
  • เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ + สัญญาณ Bullish Divergence H1) บริเวณกรอบ 64.394-63.507 / SL 63.000 เพื่อทกำไร 64.497/64.699/64.788/64.912/64.986

แนวรับ 65.058/64.788/64.471

แนวต้าน 66.341/66.841/67.455

ปฎิทินเศรษฐกิจ 23 ก.ค. 2568

บทวิเคราะห์ข่าว

  • API Report รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังลดลง 577,000 บาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น
  • ติดตามประกาศผลปริมาณน้ำมันคงคลัง EIA report หากสอดคล้องกับ API จะให้ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน

โดย Trin Anuwattanawong