กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 16 ต.ค. 2568
16 ต.ค. 2025
Day วานนี้ราคาน้ำมันยังคงเคลือนไหวในกรอบแคบๆ มีแรงซื้อ- ขายสลับลงมาทั้งวัน ปิดแท่ง Bearish Doji ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ – จีน กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เตือนแนวโน้มภาวะน้ำมันล้นตลาดในปี 2026 ทั้งจากการเพิ่มลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาด และการเพิ่มกำลังการผลิตทั้ง สหรัฐ WTI และ Brent ในแคนาดา
เช้าวันนี้ยังคงได้ปรับจัยบวก หลังทรัมป์ ระบุว่า อินเดีย ตกลงที่จะหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เพิ่่มอุปสงค์กลับเข้ามาในตลาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ $ 58.27 ต่อบาร์เรล ลดลง 0.7%
ทรัมป์เผยอินเดียจะหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย … ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
- 15 ต.ค. ทรัมป์ยืนยันต่อนักข่าวว่า ได้รับการยืนยันจากนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ประเทศอินเดีย จะลดการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ในเร็วนี้ ทรัมป์ระบุว่าตนได้รับคำยืนยันดังกล่าวจากโมดีระหว่างการพูดคุยเป็นการส่วนตัว “ผมไม่พอใจที่อินเดียยังคงซื้อน้ำมันจากรัสเซีย แต่วันนี้โมดีรับปากแล้วว่าจะหยุดซื้อ นี่เป็นก้าวสำคัญมาก ตอนนี้ตนต้องไปจัดการให้จีนทำแบบเดียวกัน”
- ขณะที่ฝั่งอินเดีย ยังคงไม่มีการยืนยันกับข่าวคร้งนี้ แต่มีความเป็นไปได้ ที่อินเดีย จะแสวงหาน้ำมันจากแหน่งอื่นทดแทนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อ เลี่ยง ภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดีย ไปสหรัฐ 50% ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และทรัมป์มีการกล่าวว่าจะเรียกเก็บจากจีนในอัตราภาษีที่เท่ากัน เนื่องจากจีนยังคงดำเนินการสั่งซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
นักลงทุนจับตาความสัมพันธ์ทางการค้า สหรัฐ – จีน … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
- ์15 ต.ค ทรัมป์กล่าวว่า “สหรัฐ อยู่ในสงครามการค้ากับจีนเต็มรูปแบบแล้ว” ระบุว่ มาตราการ ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 100% ถือเป็นครื่องมือในการปกป้องเศรษบกิจอเมริกัน ก่อนหน้าทรัมป์แถลงไม่กี่ชั่วโมง สก็อตต์ เบสเซนต์ รมต คลังสรหับ เผยว่าอาจต้อพิจารณาขยายเวลาการพักเก็บภาษีนำเข้าจากจีนให้นานกว่า 3 เดือน หากรัฐบาลจีนยอมระงับแผนการส่งออก “แร่หายาก” ที่เป็นวัตถุดิบที่สหรัฐใช้ในการผลิต เทคโนโลยีชั้นสูง
- แม้ว่า 13 ต.ค.มีข่าวว่าทรัมป์ วางแผนพบ สี จิ้งผิง ในงานประชุม APEC ที่จัดปลายเดือน ต.ค. นี้ เพื่อผ่อนคลายความกังวล เรื่องภาษี กับจีน แต่คืนที่ผ่านมา ประกาศ
“เล็ง ที่จะพิจารรา ระงับการค้า “น้ำมันปรุงพิช และสินค้า ประเภทอื่นๆ ”จากจีน โดยแนวคิดดังกล่าวเป็นมาตราการตอบโต้จีน ที่จีน ปฎิเสธ การซื้อ “ถั่วเหลือง”จาก สหรัฐ ซึ่งทรัมป์ ถือว่า เป็น ปฎิปักษ์ ด้านเศรษฐกิจและสร้างความเดือดร้อนให้กับ เกษตรกร สหรัฐ โดยเจตนา - ฝั่งจีน 12 ต.ค. จีน ได้ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วยกับการที่สหรัฐ ขึ้นภาษีนำเข้า สินค้าจากจีน 100% (เริ่ม 1 พ.ย.) อันเนื่องจาก “จีนเพิ่มมาตราการการเข้าถึงแร่หายาก” ซึ่งจีนมองว่าเป็นเรื่องที่สมควรและยุติธรรม การเพิ่มมาตราการจำกัดการส่งออกแร่หายากจากจีนเข้มงวดขึ้น ต้งแต่การ ออกกฎควบคุมบริษัทส่งออกจีน ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว จนมีการปรับเพิ่มข้อบังคับอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้
- EU และสหรัฐ เตรียมจัดประชุม VC หารือ รับมือ วิกฤตแร่หายาก รับมือกับการควบคุมจำกัดแร่หายากของจีน
- สัปดาห์ที่ผานมา จีนมีออกมาตราการตอบโต้สหรัฐโดยทันที่ ในเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมเรือ ที่เทียบท่า โดยจีนปรับค่าธรรมเนียมเรือสหรัฐ เพิ่มขึ้น $56 / ตันสุทธิ ซึ่งก่อนหน้า 1 วันสหรัฐ ปรับขึ้น ค่าธรรมเนียมเรือจีน เพิ่มขึ้นเป็ฯ $50 / ตันสุทธิ แต่เดิม ต่างฝ่ายต่างไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาก่อน
กลุ่ม G7 เตรียมหารือ รับมือตอยโต้แผน การควบคุม การส่งออก แร่หากยากของจีน ... ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
- รมต คลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 เตรียมหารือแนวทางรับมือร่วมกัน เพื่อตอบโต้แผนของจีน ในการควบคุมการจัดหาวัตถุดิบแร่หายาก ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก โดย รมต คลังเยอรมนี เผยว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลัง G7 จะหารือถึงแนวทางร่วมกัน เพื่อจัดการกับมาตรการของจีน โดยเน้นการใช้มาตรการเฉพาะเจาะจง พร้อมเตือนว่าควรหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่อาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเอง
- รมต คลังสหรัฐ ระบุ จะขยายความร่วมมือไปไกลกว่าในกลุ่ม G7 ซึ่งจะเชิญประเทส พันธมิตร ชาติอื่นๆ เข้าร่วมด้วย
- เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ โจมตีการที่จีนขยายมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากครั้งใหญ่ โดยเตือนว่าการกระทำดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะเดียวกันยังย้ำว่า สหรัฐฯ ยังเปิดทางให้จีนเปลี่ยนท่าทีเพื่อหลีกเลี่ยงการที่สหรัฐฯ ต้องเดินหน้ามาตรการแยกตัวทางเศรษฐกิจจากจีน
- เจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) กล่าวว่า “การจำกัดการส่งออกของจีนครั้งนี้ เป็นความพยายามในการช่วงชิงอำนาจในการควบคุมห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ซึ่งสหรัฐฯ และพันธมิตรจะไม่ยอมรับอย่างแน่นอน” อย่างไรก็ตาม ทั้งเกรียร์และสก็อตต์ เบสเซนต์ ต่างยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการยกระดับความขัดแย้งที่กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินและทำให้ความสัมพันธ์สหรัฐฯ–จีนถดถอยลงอย่างรุนแรง
จีนเตรียมประชุมผู้นำจีนระดับสุงสร้างยุทธศาสตร์ระยะ 5 ปี …
- จีนกำลังเตรียมประชุมระดับสูงเพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ระยะ 5 ปีถัดไป ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันจันทร์ถึงพฤหัสบดีหน้า ภายใต้ชื่อการประชุม “Fourth Plenum” ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Central Committee) โดยการประชุมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง “แนวคิดการวางแผนระยะยาว” ที่เป็นหัวใจของนโยบายเศรษฐกิจจีนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ทศวรรษ 1950 โดยรัฐบาลจีนจัดการประชุมลักษณะนี้ทุกครึ่งทศวรรษ เพื่อระดมความเห็นและกำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะต่อไป
- การประชุมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 15” ซึ่งถูกมองว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากจีนได้กำหนดวิสัยทัศน์ระยะยาวถึงปี 2035 โดยตั้งเป้าให้รายได้ประชาชาติต่อหัวของจีนอยู่ในระดับประเทศพัฒนาแล้วระดับกลางพร้อมบรรลุความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ในเทคโนโลยีแกนหลักของประเทศ
- จีนปรับแผน ชะลอ การนำบริษัทจีน เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ย้ายไปจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงแทน
– โดยข้อมูลจาก Dealogic ระบุว่า มูลค่าการเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทจีนในตลาดสหรัฐ ลดลง 4% เมื่อเทียบรายปี โดยตั้งแต่ต้นปีมีการระดมทุนเพียง 875.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 23 ดีล ลดลงถึง 93% จากระดับ 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2021
-IPO ในฮ่องกงพุ่งขึ้น 164% เมื่อเทียบรายปี มีมูลค่ารวม 18,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 56 รายการ
EIA รายงาน อาจเกิดภาวะ อุปทานล้นตลาดในปี 2026 ในระยะยาว … ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
- สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้เผยแพร่รายงานประจำเดือนตุลาคม 2025 วานนี้ 14 ต.ค.
– อุปทานน้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2026 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตน้ำมันทั้งในกลุ่ม OPEC+ และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่ม เช่น สหรัฐฯ แคนาดา บราซิล และกายานา
– ความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเพียง 710,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2025 และคาดว่าจะเติบโตในอัตราใกล้เคียงกันในปี 2026 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
– การเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันที่สูงกว่าความต้องการอาจนำไปสู่ภาวะน้ำมันล้นตลาดถึง 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2026 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
– IEA เตือนว่าความคืบหน้าในการพัฒนาพลังงานสะอาดยังคงล่าช้า แม้ว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2024 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงพลังงานในอนาคต - ผู้บริหารจากบริษัทน้ำมันชั้นนำ เช่น ExxonMobil และ TotalEnergies คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลในระยะกลางถึงยาว โดยอ้างอิงจากการลดลงของการลงทุนในโครงการน้ำมันที่ไม่เป็นทางการและความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจเกิดใหม่
H4/H1 เคลื่อนที่ลงใน channel Downtrend ใน Day และ H4 ราคาทิ้งตัวลงในวันอังคาร ในลักษณะการ ลด Low ที่ต่ำลงมา ปรากฎสัญญาณ Bullish Divergence อาศัยจังหวะการ Rebound ขึ้นไป เปิดสถานะขายจะปลอดภัยกว่า
คำแนะนำ
- เปิดสถานะขาย (รอสัญญาณขาย)ที่กรอบ 58.841-59.708/ SL 60.000 เพื่อทำกำไรที่ 58.721/58.558/58.475/58.276/57.794/57.625/57.364
แนวรับ 57.355/56.908/56.488
แนวต้าน 59.724/60.689/61.706

ปฎิทินเศรษฐกิจ 16 ต.ค. 2025

บทวิเคราะห์ข่าว
- API Weekly Report น้ำมันดิบ (Crude): +2.780 ล้านบาร์เรล / น้ำมันเบนซิน (Gasoline): –1.245 ล้านบาร์เรล และ น้ำมันดีเซล / น้ำมันหมวด Distillates: –1.822 ล้านบาร์เรล สะท้อนความต้องการใช้น้ำมันภายในประเทศยังคงมีอยู่ แตปริมาณนำ้มันดิบคงคลังยังคงเหลืออยู่ ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
- ติดตาม ตัวเลข EIA ในคืนนี้หาก ปริมาณน้ำมันดิบเหลืออยู่มาก เช่นเดียวกับ API จะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
โดย Trin Anuwattanawong