USA:บริษัทขนาดยักษ์มีราคาหุ้นพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในปี 2023 เพราะ AI

3 ม.ค. 2024

  • บริษัทขนาดยักษ์ทั่วโลก โดยเฉพาะบริษัทในภาคเทคโนโลยี มีราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2023 โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสการคาดการณ์ในทางบวกต่อธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ , จากการชะลอตัวลงของอัตราเงินเฟ้อ และจากความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางในหลายประเทศจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งนี้ บริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดพุ่งขึ้น 188% สู่ 9.093 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายปีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 11 ปี ทางด้านบริษัทเอ็นวิเดีย คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปในสหรัฐ มีมูลค่าตามราคาตลาดทะยานขึ้น 240% สู่ 1.22 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายปีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2001
  • บริษัทเทสลาซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า มีมูลค่าตามราคาตลาดทะยานขึ้นเป็นสองเท่า สู่ 7.89 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ในทางบวกที่มีต่อโปรแกรมขับขี่รถยนต์อัตโนมัติของเทสลา และจากการที่เทสลาจัดส่งยานพาหนะได้สูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ทั้งนี้ บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในช่วงสิ้นปีที่แล้วคือแอปเปิล ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ 2.99 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่ไมโครซอฟท์ครองอันดับสองที่ระดับ 2.79 ล้านล้านดอลลาร์
  • อย่างไรก็ดี การที่หุ้นบริษัทขนาดยักษ์พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งแบบนี้ในปี 2023 ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางรายมองว่า หุ้นกลุ่มนี้มีมูลค่าสูงเกินไป และนักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดหุ้นจะทะยานขึ้นในวงกว้างกว่าเดิมในปี 2024 โดยการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นในวงกว้างนี้จะได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้
  • ในส่วนของอันดับบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากที่สุดในโลกในช่วงสิ้นปี 2023 นั้น อันดับ 3 เป็นของบริษัทซาอุดิ อาราเบียน ออยล์ ที่มีมูลค่า 2.1297 ล้านล้านดอลลาร์, อันดับ 4 เป็นของบริษัทแอลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ที่มีมูลค่า 1.7555 ล้านล้านดอลลาร์, อันดับ 5 เป็นของบริษัทอะเมซอนดอทคอม ที่มีมูลค่า 1.5702 ล้านล้านดอลลาร์, อันดับ 6 เป็นของเอ็นวิเดีย, อันดับ 7 เป็นของเมตา แพลตฟอร์มส์, อันดับ 8 เป็นของเทสลา, อันดับ 9 เป็นของบริษัทเบิร์คเชียร์ แฮทธาเวย์ ซึ่งมีมูลค่า 7.769 แสนล้านดอลลาร์ และอันดับ 10 เป็นของบริษัทอีไล ลิลลี แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐที่มีมูลค่า 5.534 แสนล้านดอลลาร์
  • อันดับ 11 เป็นของบริษัทวีซ่า ที่มีมูลคา 5.233 แสนล้านดอลลาร์, อันดับ 12 เป็นของบริษัทบรอดคอม ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐที่มีมูลค่า 5.226 แสนล้านดอลลาร์, อันดับ 13 เป็นของบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค ซึ่งมีมูลค่า 5.005 แสนล้านดอลลาร์, อันดับ 14 เป็นของ SPDR S&P 500 ETF Trust ที่มีมูลค่า 4.925 แสนล้านดอลลาร์, อันดับ 15 เป็นของธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ที่มีมูลค่า 4.918 แสนล้านดอลลาร์, อันดับ 16 เป็นของบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพของสหรัฐที่มีมูลค่า 4.870 แสนล้านดอลลาร์, อันดับ 17 เป็นของบริษัทวอลมาร์ท ที่มีมูลค่า 4.244 แสนล้านดอลลาร์, อันดับ 18 เป็นของบริษัทแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี หลุยส์ วิตตอง ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าหรูหราของฝรั่งเศสที่มีมูลค่า 4.073 แสนล้านดอลลาร์, อันดับ 19 เป็นของบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ ที่มีมูลค่า 4.033 แสนล้านดอลลาร์ และอันดับ 20 เป็นของบริษัทมาสเตอร์การ์ด ที่มีมูลค่า 4.000 แสนล้านดอลลาร์–จบ–

Top 20 companies in the world by market cap Top 20 companies in the world by market cap https://tmsnrt.rs/3OAhlz8

Change in market cap in December Change in market cap in December https://tmsnrt.rs/47cjbgK

ข่าวที่น่าสนใจวันนี้

ตลาดทั่วโลกวันนี้

26 มิ.ย. 2024

แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลัง

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเงินยูโรร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในช่วงที่ผ่านมา

17 มิ.ย. 2024

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเงินยูโรร่วงลงใกล้ระดับต่ำสุดในช่วงที่ผ่านมา ตลาดรั้งข้อมูลจีน

หุ้นเอเชียร่วง เงินเยนผันผวนก่อนคำตัดสิน BOJ

14 มิ.ย. 2024

ข้อมูลในวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานใหม่เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ราคาผู้ผลิตลดลงอย่างกะทันหันในเดือนพฤษภาคม

ภาพรวมตลาดเรียลไทม์