กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 31 ก.ค. 2568

date_range31 ก.ค. 2025

Day โครงสร้างเทรนด์ขาขึ้น ราคาปรับย่อตัวที่ระดับ 63.508 ในวันที่ 1 Jul ซึ่งอยู่ในระดับการย่อ 50% Fibonacci ของ Timeframe Day วานนี้ราคาน้ำมันย่อตัวบริเวณแนวรับที่ให้ไว้ ก่อนดีดตัวขึ้นมาบริเวณ FVG H1 (ตามคาด) ราคาน้ำมันยังคงได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากคำขู่เกรียกเก็บภาษีน้ำมันกับประเทศค้าขายน้ำมันดิบกับรัสเซีย ประกอบกับตัวเลข GDP ที่ประกาศออกมาสะท้อนภาคเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2 ปรับขยายตัว ทำให้ปิดแท่งรายวันวานนี้ Bullish Hammer ปิดเขียวติดต่อกัน 3 วัน

น้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ $ 70.00 ดต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.14%

ทรัมป์เพิ่มคำขู่เรียกเก็บภาษีกับประเทศที่ซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย อินเดีย โดนลงดาบประเทศแรก … ปัจจัยบวก่ต่อราคาน้ำมัน

• สัปดา์ที่แล้ว ทรัมป์ประกาศหากรัสเซียไม่ยุติสงครามในยูเครน 10-12 วีน สหรัฐจะใช้มาตราการภาษี Secondary Tariff เพิ่มขึ้น 100% สำหรับสินค้าจากประเทศที่ยังนำเข้าน้ำมันจากรันเซีย เช่น จีน อินเดีย บราซิล โดยอ้างเป็นการลดต้นทุนและช่วยสนับสนุนสงครามของรัสเซีย
• ในขณะที่ วุฒิสมาชิก Lindsey Graham ได้เสนอร่างกฎหมาย Sanctioning Russia Act มีแนวคิดเก็บภาษีสูงสุด 500% กับประเทศที่ซื้อพลังงานหรือสินค้าจากรัสเซีย
• 30 ก.ค. ทรัมป์ประกาศ เก็บภาษีนำเข้าจากอินเดีย 25% เริ่ม 1 ส.ค. และจะมีบทลงโทษเพิ่มเติม สำหรับการที่อินเดียยังคง ซื้ออาวุธและน้ำมันจากรัสเซีย โดยเริ่ม 1 ส.ค. แม้ว่าสหรัฐ-อินเดีย จะมีความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตร แต่ต้องการให้อินเดียลดความสัมพันธทางเศรษฐกิจ กับ รัสเซีย ในช่วงวิกฤตสงครามยูเครน

สหรัฐ-เกาหลีเหลือ บรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนเส้นตายวันพรุ่งนี้ …ปัจจัยบวกต่อ น้ำมัน

• ทรัมป์แถลงเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเกาหลี 15% เริ่ม 1 ส.ค. (จากเดิม 25%) สำหรับสินค้า รถยนต์,ชิ้นส่วนรถยนต์ สินค้า IT และ เภสัช (ไม่เพิ่มน้ำหนัก) โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เกาหลีใต้ ตกลงลงุทน 350 พันล้านดอลลาร์ ในโครงการที่สหรัฐควบคุม ซึ่งทรัมป์จะระบุและเลือกรายการลงทุนภายหลัง พร้อมกันนี้ เกาหลีใต้ ต้องสั่งซื้อพลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว LNG มูลค่า พันล้านดอลลาร์ และต้องเปิดการค้าเสรีสหรัฐในเกาหลีใต้ ยกเว้น ข้าวและเนื้อวัว ซึ่งเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จในการ “ปกป้องภาคเกษตรเชิงยุทธศาสตร์” สำหรับเกษตรกรในเกาหลี

ประกาศ GDP ไตรมาส 2 สหรัฐ เติบโตเกินคาด… ปัจจัยบวกต่อ USD และ น้ำมัน (ชั่วคราว)

• 30 ก.ค. ประกาศตัวเลข Advance GDP ไตรมาส 2 ขยายตัว 3.0% พลิกกลับจากการหดตัว – 0.5% ในไตรมาศ 1
• นักเศรษฐศาสตร์เตือน การฟื้นตัวครั้งนี้ถูก “เร่งขึ้น” จากการลดลงอย่างมากของการนำเข้า Q1 เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี (สร้างสต็อกสินค้าในQ1) ในขณะที่ Q2 ปรับลดคำสั่งนำเข้า (Import Drop) ซึ่งเป็นปัจจัยเพิม GDP +5.0 จุด ในขณะที่การบริโภค ภายในประเทศ ขยายตัวเพียง 1.4% การลงทุนภาคเอกชนในสหรัฐ ลดลง 15.6% ยอดขายภายในประเทศ เติบโตเพียง 1.2% (น้อยที่สุดในรอบ 2.5ปี)

ประกาศตัวเลข PMI จีนหดตัว … ปัจจัยกดดัน ราคาน้ำมัน

• 30 ก.ค. PMI ภาคการผลิต 49.3 ลดลงจากเดือน มิ.ย. 49.7 ซึ่งยังคงเป็นการหดตัวติดต่อกัน เดือนที่ 4 / PMI ภาคการบริการ อยูที่ 50.1 ตำกว่าเดือนมิ.ย. 50.3 ขยายตัวไม่เต็มที่ ปัจจัยคาดมาจาก อุปสงค์ภายใน และต่างประเทศในจีนยังคงได้รับแรงกดดันอยู่

EIA report สอดคล้องกับ AIP report ปริมาณน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น … กดดันราคาน้ำมัน

• 30 ก.ค. EIA รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง +7.7 (สูงกว่าคาดการณ์ 1.3-2.5 ล้านบาร์เรล) รวม 426.7 ล้านบาร์เรล / นำมันเข้าสูงโรงกลั่น 16.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน กำลังการกลั่น 95.4% เบนซิน ลดดลง 2.7 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ดีเซลเพิ่ม 3.6 ล้านบาร์เรล
• สะท้อน อุปสงค์อ่อนตัว อุปทานขยายตัว ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

H4/H1 โครงสร้าง H4 สิ้นสุดโครงสร้างเทรดน์ขาลง ราคาน้ำมันยืนเหนือ Choch H4 ระดับ 67.219 ขึ้นมาได้ (ตามคาด) ซึ่งเพิ่มมุมมองฝั่งซื้อ ราคาน้ำมันดีดตึวขึ้นระดับ 69.200 วานนี้มีการย่อตัวลงเล็กน้อยก่อนจะขึ้นมาแตะระดับ 69.940 (ตามคาด) ซึ่งเป็นบริเวณแนวต้าน FGV และ ชนกับ Channel Uptrend อาจจะเห็นราคายอตัวลงมาตามคำแนะนำขายวานนี้ ในขณะที่ TF H1 เริ่มปรากฎสัญญาณ Bearish Divergencce

คำแนะนำ

• ปิดสถานะขาย (รอสัญญาณซขาย) บริเวณกรอบ 69.382-69.947 /SL 70.100 เพื่อทำกำไร ระยะสั้น 69.292/69.108/68.964/68.862/68.636

• เปิดสถานะซือ (รอสัญญาณซื้อ) บริเวณกรอบ 67.765-68.417 / SL 67.300 เพื่อทำกำไร 68.526/68.858/69.003/69.149/69.330/69.62

แนวรับ 67.745/66.767/65.488

แนวต้าน 69.940/71.215/72.119

ปฎิทินเศรษฐกิจ 31 ก.ค.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

• Core PCE Price Index เป็นดัชนีราคาสุทธฺเพื่อการบริโภคส่วนตัว ไม่ร่วมอาหารและพลังงาน ซึ่งจะไม่ค่อยมีผลหรือปัจจัยต่อน้ำมันโดยตรง
• ติดตามปริมาณแก็สธรรมชาติคงคลัง ซึ่งสะท้อนความต้องการภายในครัวเรือน เดินทาง และภาคอุตสหกรรมบางรายการ ซึ่งจะเป็นตัวชีวัดอุปสงค์และอุปทานของราคาแก็สธรรมชาติได้เช่นกัน