กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 13 มิ.ย.2568

13 มิ.ย. 2025

Day โครงสร้างสิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาลง วานนี้ราคาน้ำมันลงมาทดสอบ แนวรับ FVG H4 ที่กรอบ 65.498-66.090 ก่อนดีดตัวขึ้นไป(ตามคาด) ปิดแท่ง Bullish Dragonfly Doji สะท้อนแรงซื้อยังคงเข้ามาในตลาด ทั้งนี้จากปัจจัยความคลายกังวล ในเรื่องการยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน จากการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 6 ที่คาดว่ายังคงยากที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว

เปิดตลาดเช้านี้ราคาน้ำมันดีดขึ้นสูงสู่ระดับ 74.622 (ุพุ่งขึ้น 8.4%) บริเวณแนวต้าน รายวัน กรอบ 73.704-75.079 จากปัจจัย อิสลาเอลเปิดฉากโจมตี ฐานผลิตในเคลียรในอิหร่าน “หลังจากการโจมตีเชิงป้องกันโดยรัฐอิสราเอลต่ออิหร่าน คาดว่าจะมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน (UAV) ต่อรัฐอิสราเอลและประชากรพลเรือนในระยะเวลาอันใกล้นี้” รัฐมนตรีกลาโหม Israel Katz กล่าวในแถลงการณ์ และประกาศภาวะฉุกเฉินในอิสลาเอล

ในขณะที่มีแรงขายสลับกลับลงมา ในสัญญาณ Overbough ระดับรายวัน ทั้งนี้ต้องจับตาดูบริเวณ 65.255-66.844 ว่าจะสามารถรับอยู่บริเวณนี้ได้หรือไม่

 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดตลาดที่ 67.92 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.3%

อิสลาเอลเปิดฉากถล่มฐานการผลิตนิวเคลียร์ในอิหร่าน เช้า 13 มิ.ย.

  • อิสลาเอล โจมตีทางอากาศอิหร่านเช้ามืดวันนี้ (13 มิ.ย.) ด้วยปฎิบัติการ Operation Rising Lion โดยเริ่มการโจมตีด้วยเครื่องบินรบ หลายสิบลำ เป้าหมายนิวเคลียร์ และ ทหาร ในเขต กรุงเตหะรานหลายจุด และตามมาด้วยการโจมตีซ้ำรอบ 2 ในอีก 2 ชั่วโมงที่ผานมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย รวมไปถึง ผู้บัญชาการ IRGC และนักวิทยาศาสตร์ปรมาณสำคัญในอิหร่านหลายคน โดยอิสลาเอลเปิดฉากโจมตีครั้งนี้เชื่อว่า อิหร่านสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร 15 ลูกภายในไม่กี่วัน ซึ่งถือเป็น Pre Emptied Strike (การโจมตีป้องกันล่วงหน้า) มีขึ้นก่อน การประชุมนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ในวันอาทิตย์นี้ที่โอมาน
  • ก่อนหน้านี้ คืนวัน ที่ 12 มิ.ย. ทรัมป์ สหรัฐฯ กำลังใกล้บรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน โดยอิหร่าน “พอจะ” เห็นด้วยกับเงื่อนไขแล้ว มั่นใจอาจทำข้อตกลงได้โดยไม่ต้องใช้วิธีรุนแรง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่อิสลาเอลเปิดฉากโจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้

EIA รายงานแก๊สธรรมชาติคงคลัง รายงานปริมาณเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน … สะท้อนเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน(เล็กน้อย)

  • 12 มิ.ย. EIA รายงานแก๊สธรรมชาติคงคลัง เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน +109 Bcf ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี สะท้อนความต้องการใช้พลังงานโดยรวม ซึ่งยังใช้ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งหากยังเหลือมาก จะบ่งชี้ถึง เศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน ที่ยังไม่ร้อนแรงเต็มที่
  • 11 มิ.ย. EIA รายงาน ปริมาณ น้ำมันคงคลัง ดังนี้
    – น้ำมันดิบลดลง –3.644 ล้านบาร์เรล (ลดลง 8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี)
    – น้ำมันเบนซิน + 1.5 ล้านบาร์เรล / ดีเซล(นำ้มันเตา) + 1.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งยังคงถือว่า ไม่เยอะมากกว่าระดับความต้องการ
  • 11 มิ.ย. รายงานข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ชี้ว่า ศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานสูง (เพื่อสนับสนุน AI และคริปโทเคอร์เรนซี) จะทำให้การใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2025 และ 2026 โดยคาดว่าการใช้ไฟฟ้าปี 2025 เพิ่มเป็น 4,193 พันล้านกิโลวัตต์ และปี 2026 เพิ่มอีกเป็น 4,283 พันล้าน กิโลวัตต์

ยุโรปเสนอมาตราการคว่ำบาตร รัสเซีย ชุดที่ 18 … อุปทานน้ำมันลด ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • คณะกรรมาธิการยุโรป เสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 18 ในวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากการรุกรานยูเครน โดยมาตราการคว่ำบาตร ต่อเนื่อง เพื่อ ลดรายได้ของรัสเซีย เป็นการสกัดงบประมาณกองทัพรัสเซียทางอ้อม โดยยึดหลัก unanimity หรือเสียงเห็นชอบทั้งหมดจากสมาชิก EU 27 (ฮังการี และ สโลวะเกียคัดค้าน)
    – ห้ามทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 & 2 ทั้งทางตรงและทางอ้อม
    – ปรับลด price cap น้ำมันรัสเซีย จาก 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหลือ 45 ดอลลาร์ เพื่อบีบรัดรายได้ของรัสเซีย
    – คุมเข้มการนำเข้าสินค้าน้ำมันกลั่น (refined products) จากรัสเซีย หรือผ่านประเทศที่แกล้งแปรรูปก่อนส่งให้ EU
    – เพิ่มการบีบบังคับเงียบ (shadow fleet) โดยเพิ่มรายชื่ออีก 70–77 เรือที่เกี่ยวข้อง รวมเป็นกว่า 400 รายการ
    – ห้ามธุรกรรมผ่านระบบ SWIFT ไปยังธนาคารรัสเซียอีก 22 แห่ง รวมถึงผู้ทำหน้าที่หลีกเลี่ยงมาตรการผ่านธนาคารในประเทศที่สาม
    – เพิ่มรายชื่อบริษัทจีน, เบลารุส และอื่นๆ ที่สนับสนุนโครงสร้างการทหารของรัสเซีย จำนวนรวมมากกว่า 800 บริษัท
  • ในขณะที่ การเจรจาสันติภาพ รัสเซีย-ยูเครน ก็ยังคงไม่คืบหน้า แม้ว่าปูตินส่งสัญญาณพร้อมเจรจา “ตัวต่อตัว” กับ เซเลนสกี้ ในสัปดาห์นี้ แต่ไม่มีทีท่าการกำหนดวัน และสถานที่นัดหมายในการเจรจา

ทรัมป์ ชื่นชม ผลการเจรจาการค้า สหรัฐ-จีน  …. สัญญาณบวก ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • ทรัมป์ เผย ข้อตกลงกับจีน เสร็จสิ้นแล้ว รอเพียงการอนุมัติจาก สิ จิ้นน ผิง จีนจะจัดหา “แร่หายากและแม่เหล็ก ล่วงหน้า” อีกทั้ง สหรัฐ จะอนุญาติให้นักศึกษาจีนเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัย ของสหรัฐได้ และจะผ่อนคลายการควบคุม การส่งออกบางส่วนให้กับจีน นอกจากนี้ทรัมป์แถลง ข้อตกลง ภาษีนำเข้าสินค้า จีน ไปสหรัฐ 55% (10% อัตราภาษีพื้นฐาน + 20% ภาษีตอบโต้เกี่ยวกับ คาเฟนทานีน +25% ภาษีเดิม จากวาระแรกของทรัมป์”ในขณะที่ภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเข้าจีน 10% เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายพูดตรงกันในเรื่องกรอบการทำงาน ตามโครงร่างข้อตกลงเจนีวา
  • ผู้ค้าปลีกรายย่อยในสหรัฐ กำลังเผชิญ วิกฤษ หลังจากวันที่ 12 พ.ค. ที่กำหนดสินค้านำเข้าจากจีนภาษี อัตรา 30% (ขยายเวลาไปจนถึงวันที่) 12 ส.ค. ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากชะลอคำสั่งซื้อสินค้า เพื่อรอฝังผลการเจรจาที่คาดว่า สินค้านำเข้าจะปรับลดลงจาก 30% ซึ่งส่งผลให้ ต้นทุนของผู้ค้าปลีกรายย่อยสูงขึ้น ซึ่งจะมียอดสั่งซื้อสินค้าที่น้อยลงตามมา
  • ทรัมป์ จะส่งจดหมายไปยังประเทศคู่ค้าภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า (สำหรับประเทศที่ไม่มีการเจรจาการค้า) เพื่อกำหนดอัตราภาษีฝ่ายเดียว ก่อนถึงกำหนดเส้นตายสงบศึกการค้าในวันที่ 9 ก.ค.
  • ขณะที่ สก็อต เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ อาจขยายเวลาหยุดเก็บภาษีตอบโต้ 90 วันของประธานาธิบดีทรัมป์ จากวันที่ 9 ก.ค.นี้ สำหรับชาติคู่ค้าหลัก (ประเทศคู่ค้าที่มีการเจรจากันอยู่ ซึงมีทั้งหมด 18 ประเทศ (มีทั้งสหภาพยุโรป, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก และรวมถึงไทยด้วย)

สหรัฐเตรียมอพยพสถานฑูตสหรัฐ ในอิรัก กลับประเทศ …… เป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • อิหร่านประกาศขู่จะโจมตีกองทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง หากการประชุมนิวเคลียร์รอบที่ 6 ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้ สหรัฐเตรียมอพยพบุคลากรบางส่วนจากสถานฑูตอิรัก และเปิดทางให้ครอบครัวทหารในตะวันออกกลางเดินทางกลับได้โดยสมัครใจ

ศาลอุทธรณ์สหรัฐ ตัดสิน ทรัมป์ยังคงใช้มาตราการภาษีได้ปรกติ… ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • ศาลอุทธรณ์สหรัฐ มีคำสั่งวานนี้ อนุญาตให้ทรัมป์ “ยังคงบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าในระดับโลกต่อไปได้ชั่วคราว จนกว่าจะถืงคำตัดสินของศาลในวันที่ 31 ก.ค.

PPI ปรับตัวร่วงลงต่ำกว่าคาด .. สะท้อนหดตัวกำไร จากนโยบายภาษีทรัมป์ กดดัน USD (ปัจจัยบวกชั่วคราว น้ำมัน)

  • PPI – สหรัฐ ปรับตัวร่วงลง -0.5% (ลดลงต่ำกว่าคาด) บ่งชี้ว่า บริษัทต่าง ๆ กำลังแบกรับผลกระทบบางส่วนจากมาตรการภาษีที่เพิ่มสูงขึ้น ซึงถือเป็นการลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 2015
  • จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน 229K ซึ่งอยู่ในกรอบ 205-243 K สอบคล้องกับการเลิกจ้างที่ต่ำ เนื่องจากบริษัทยังคงต้องการรักษาพนักลานไว้ หลังคลาดแคลนแรงงาน(หลังโควิด-19) แม้ว่านโยบายทรัมป์ สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจ ต้องระงับการคาดการณ์ผลประกอบการ ปี 2025
  • พาวเวล์ ประธานเฟด กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยุค ดอกเบี้ย ใกล้ศูนย์คงไม่มีวันกลับมาในเร็ววันนี้ (ดอกเบี้ยระยะยาว = อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ขึ้นไป ซึ่งจะสร้างหนี้ให้รับรัฐบาลมากขึ้น)

H4 /H1 : ราคาน้ำมันเคลื่อนที่ในเทรนด์ขาขึ้น ดีดตัวขึ้น Impulse แต่แนวต้านรายวัน ก่อนปรับตัวย่อลงมา ขายทางเทคนิค ประกอบสัญญาณ Overbought วานนี้ราคาปรับตัวย่อและดีดขึ้นต่อตามคาด ในขณะที่ EMA 20- EMA50 ตัดึ้นส่งสัญญาณบวกแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น

แนะนำ

  • เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 67.987-69.428 / SL65.000 เพื่อทำกำไรที่ 70.482 /71.321/72.730/73.720 /75.120/75.934/77.913
  • เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 65.601-67.627 / SL64.000 เพื่อทำกำไรที่ 68.436/69.526/70.482 /71.321/72.730/73.720 /75.120/75.934/77.913

แนวรับ 69.366/67.582/65.664

แนวต้าน 75.111/76.722/78.308

ปฎฺิทินเศรษฐกิจ 13 มิ.ย.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

  • ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐ หากมากว่าคาดการณ์สะท้อนความเชื่อมั่นผู้บริฌภคกลับมา ซึ่งมีโอกาศที่เศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวในภายหลัง จะส่งผลดีต่อ USD และ ความต้องการใข้น้ำมันเช่นกัน

โดย Trin Anuwattanawong