กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 12 มิ.ย.2568

12 มิ.ย. 2025

Day โครงสร้างสิ้นสุดโครงสร้างเทรนด์ขาลง ราคาน้ำมันสามารถยืนเหนือจุด Choch Day 64.692 และขึ้นไปทำ High ทีระดับ 67.735 เมื่อเช้านี้ วานนี้ ราคาน้ำมันได้อานิสงค์ในหลายเรื่อง ทั้ง EIA รายงานน้ำมันคงคลังลดลงเกินคา + ทรัมป์ ออกมาชื่นชมผลการเจรจาการค้า ระหว่าง สหรัฐ-จีน และการเตรียมอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนในสถานฑูตอิรัหลังอิหร่าน ออกมาขู่โจมตีสหรัฐ ก่อนวันการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ 6 ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้ทีโอมาน

ทางเทคนิค ราคาสามารถทำลายโครงสร้างเทรนด์ขาลง และยังสร้าง Channel Uptrend วานนี้ปิดแท่ง Bullish Marubozo ณ ปัจจุบันราคาชนกรอบและมีการปรับย่อตัวลงมาในลักษณะปิดขายทำกำไร ในโซน Overbought

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดตลาดที่ 68.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.17 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ เพิ่มขึ้น 4.88 %

EIA รายงานน้ำมันดิบคงคลังลดลง … ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน

  • 11 มิ.ย. EIA รายงาน ปริมาณ น้ำมันคงคลัง ดังนี้
    – น้ำมันดิบลดลง –3.644 ล้านบาร์เรล (ลดลง 8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี)
    – น้ำมันเบนซิน + 1.5 ล้านบาร์เรล / ดีเซล(นำ้มันเตา) + 1.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งยังคงถือว่า ไม่เยอะมากกว่าระดับความต้องการ
  • 11 มิ.ย. รายงานข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ชี้ว่า ศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานสูง (เพื่อสนับสนุน AI และคริปโทเคอร์เรนซี) จะทำให้การใช้ไฟฟ้าในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2025 และ 2026 โดยคาดว่าการใช้ไฟฟ้าปี 2025 เพิ่มเป็น 4,193 พันล้านกิโลวัตต์ และปี 2026 เพิ่มอีกเป็น 4,283 พันล้าน กิโลวัตต์

ยุโรปเสนอมาตราการคว่ำบาตร รัสเซีย ชุดที่ 18 … อุปทานน้ำมันลด ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • คณะกรรมาธิการยุโรป เสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 18 ในวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากการรุกรานยูเครน โดยมาตราการคว่ำบาตร ต่อเนื่อง เพื่อ ลดรายได้ของรัสเซีย เป็นการสกัดงบประมาณกองทัพรัสเซียทางอ้อม โดยยึดหลัก unanimity หรือเสียงเห็นชอบทั้งหมดจากสมาชิก EU 27 (ฮังการี และ สโลวะเกียคัดค้าน)
    – ห้ามทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 & 2 ทั้งทางตรงและทางอ้อม
    – ปรับลด price cap น้ำมันรัสเซีย จาก 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหลือ 45 ดอลลาร์ เพื่อบีบรัดรายได้ของรัสเซีย
    – คุมเข้มการนำเข้าสินค้าน้ำมันกลั่น (refined products) จากรัสเซีย หรือผ่านประเทศที่แกล้งแปรรูปก่อนส่งให้ EU
    – เพิ่มการบีบบังคับเงียบ (shadow fleet) โดยเพิ่มรายชื่ออีก 70–77 เรือที่เกี่ยวข้อง รวมเป็นกว่า 400 รายการ
    – ห้ามธุรกรรมผ่านระบบ SWIFT ไปยังธนาคารรัสเซียอีก 22 แห่ง รวมถึงผู้ทำหน้าที่หลีกเลี่ยงมาตรการผ่านธนาคารในประเทศที่สาม
    – เพิ่มรายชื่อบริษัทจีน, เบลารุส และอื่นๆ ที่สนับสนุนโครงสร้างการทหารของรัสเซีย จำนวนรวมมากกว่า 800 บริษัท

ทรัมป์ ชื่นชม ผลการเจรจาการค้า สหรัฐ-จีน  …. สัญญาณบวก ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • ทรัมป์ เผย ข้อตกลงกับจีน เสร็จสิ้นแล้ว รอเพียงการอนุมัติจาก สิ จิ้นน ผิง จีนจะจัดหา “แร่หายากและแม่เหล็ก ล่วงหน้า” อีกทั้ง สหรัฐ จะอนุญาติให้นักศึกษาจีนเข้าเรียนใน มหาวิทยาลัย ของสหรัฐได้ และจะผ่อนคลายการควบคุม การส่งออกบางส่วนให้กับจีน นอกจากนี้ทรัมป์แถลง ข้อตกลง ภาษีนำเข้าสินค้า จีน ไปสหรัฐ 55% (10% อัตราภาษีพื้นฐาน + 20% ภาษีตอบโต้เกี่ยวกับ คาเฟนทานีน +25% ภาษีเดิม จากวาระแรกของทรัมป์”ในขณะที่ภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเข้าจีน 10% เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายพูดตรงกันในเรื่องกรอบการทำงาน ตามโครงร่างข้อตกลงเจนีวา
  • ผู้ค้าปลีกรายย่อยในสหรัฐ กำลังเผชิญ วิกฤษ หลังจากวันที่ 12 พ.ค. ที่กำหนดสินค้านำเข้าจากจีนภาษี อัตรา 30% (ขยายเวลาไปจนถึงวันที่) 12 ส.ค. ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมากชะลอคำสั่งซื้อสินค้า เพื่อรอฝังผลการเจรจาที่คาดว่า สินค้านำเข้าจะปรับลดลงจาก 30% ซึ่งส่งผลให้ ต้นทุนของผู้ค้าปลีกรายย่อยสูงขึ้น ซึ่งจะมียอดสั่งซื้อสินค้าที่น้อยลงตามมา
  • ทรัมป์ จะส่งจดหมายไปยังประเทศคู่ค้าภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า (สำหรับประเทศที่ไม่มีการเจรจาการค้า) เพื่อกำหนดอัตราภาษีฝ่ายเดียว ก่อนถึงกำหนดเส้นตายสงบศึกการค้าในวันที่ 9 ก.ค.
  • ขณะที่ สก็อต เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ อาจขยายเวลาหยุดเก็บภาษีตอบโต้ 90 วันของประธานาธิบดีทรัมป์ จากวันที่ 9 ก.ค.นี้ สำหรับชาติคู่ค้าหลัก (ประเทศคู่ค้าที่มีการเจรจากันอยู่ ซึงมีทั้งหมด 18 ประเทศ (มีทั้งสหภาพยุโรป, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก และรวมถึงไทยด้วย)

สหรัฐเตรียมอพยพสถานฑูตสหรัฐ ในอิรัก กลับประเทศ …… เป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • อิหร่านประกาศขู่จะโจมตีกองทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง หากการประชุมนิวเคลียร์รอบที่ 6 ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้ สหรัฐเตรียมอพยพบุคลากรบางส่วนจากสถานฑูตอิรัก และเปิดทางให้ครอบครัวทหารในตะวันออกกลางเดินทางกลับได้โดยสมัครใจ
  • ประกาศ จาก World Bank ธนาคารโลก
    – เศรษฐกิจโลก ลดคาดการณ์การเติบโต  ปี 2025 เหลือ 2.3% (เดิม2.7%) จากผลกระทบ นโยบายภาษีของทรัมป์ ซึ่งส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ è เศรษฐกิจชะลอตัว
    – เศรษฐกิจสหรัฐ ลดคาดการณ์การเติบโต ปี 2025 เหลือ 1.4 %(เดิม 2.3%)
    – เศรษฐกิจ ยูโรโซน ลดคาดการณ์การเติบโต ปี 2025 เหลือ 0.7 %(เดิม 1.0 %)
    – เศรษฐกิจ จีน คงคาดการณ์การเติบโต ปี 2025 ที่ 4.5% มีศักยภาพมาตรการการเงิน- คลัง กระตุ้นเศรษฐกิจ

ศาลอุทธรณ์สหรัฐ ตัดสิน ทรัมป์ยังคงใช้มาตราการภาษีได้ปรกติ… ปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน

  • ศาลอุทธรณ์สหรัฐ มีคำสั่งวานนี้ อนุญาตให้ทรัมป์ “ยังคงบังคับใช้มาตรการภาษีนำเข้าในระดับโลกต่อไปได้ชั่วคราว นับเป็นชัยชนะด้านนโยบายเศรษฐกิจสำคัญของทรัมป์” โดยศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐออกคำสั่งขยายเวลาการระงับบังคับคดีเดิม โดยศาลให้เหตุผลว่า “ความกังวลของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเจรจาการค้าที่กำลังดำเนินอยู่ มีน้ำหนักมากกว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่ธุรกิจขนาดเล็กซึ่งเป็นผู้ยื่นฟ้องกำลังเผชิญ”
  • สหรัฐ-แม็กซิโก กำลังเจรจา กำหนดโควต้านำเข้าเหล็ก-อะลูมิเนียมจากแม็กซิโก ซึ่งโคว้ตาที่ว่าอาจะต้องเสียภาษี ต่ำกว่า 50% หรือไม่เสียเลย ขึ้นอยู่กับผลสรุปการเจรจาครั้งนี้
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดเล็กของสหรัฐ (Small Business Optimism Index) ปรับตัวสูงขึ้น 3 จุด มาอยู่ที่ 98.8 ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ทำให้ผู้ประกอบการคาดหวังยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงมีคือ ดัชนีความไม่แน่นอน (Uncertainty Index) ยังเพิ่มขึ้น 2 จุด มาอยู่ที่ 94 สะท้อนความวิตกเกี่ยวกับอนาคตของนโยบายลดภาษีของทรัมป์ ที่ยังมีความไม่ชัดเจน

H4 /H1 : ราคาน้ำมันเคลื่อนที่ในเทรนด์ขาขึ้น ราคาสามารถดึดขึ้นจากแนวรับที่ให้ไว้วานนี้ได้ (ตามคาด) เปิดตลาดเช้านี้ราคาสามารถดีดขึ้นทำ High ใหม่ 67.735ได้สำเร็จ ก่อนจะมีแรงเทขายสลับกลับลงมา (Overbought) ซึ่งมีโอกาสปรับฐานได้ ทั้งนี้เริ่มมีการก่อตัว Pattern irregular correction (WXY) มีโอกาสที่จะปรับย่อเพื่อขึ้นต่อ

แนะนำ

  • เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ65.498-66.090 / SL64.000 เพื่อทำกำไรที่ 66.337/66.536/66.871/67.106/67.439/67.632/68.103
  • เปิดสถานะซื้อ (รอสัญญาณซื้อ)ที่กรอบ 65.022-64.215 / SL64.000 เพื่อทำกำไรที่ 65.284/65.850/636.110/66.337/66.536/66.871/67.106/67.439/67.632/68.103

แนวรับ 65.544/64.197/63.149

แนวต้าน 67.669/68.250/69.700

ปฎิทินเศรษฐกิจ วันที่ 12 มิ.ย.2568

บทวิเคราะห์ข่าว

  • ประกาศตัวเลข CPI y/y วานนี้ อยู่ที่ 2.4% ซึ่งมากกว่าเดือนที่แล้วเล็กน้อย แต่ยังน้อยกว่าคาด ประกอบกับ Core CPI(ไม่รวมอาหารและพลังงาน) และ CPI mm ลดต่ำกว่าเดือนที่แล้ว สะท้อนว่าดัชนีผุ้บริโภค (เงินเฟ้อ)ชะลอตัวอยู่ ซึ่งคาดว่า Fed จะยังคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ สะท้อนการทรงตัวของ USD (กดดันราคาน้ำมัน) แต่ในเวลาเดียวกัน ที่ ทรัมป์ออกแถลงความสำเร็จในการเจรจา (ส่งผลดีต่อคาดการณ์ปริมาณความต้องการน้ำมันสูงขึ้น) และในเวลาต่อมา ทีเพนทากอน ประกาศอพยพ คณะฑูต ในประเทศอิรัก และ ครอบครัวทหารที่ประจำตะวันออกกลางให้กลับโดยสมัครใจ จึงส่งผลให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น
  • ทั้งนี้ ติดตาม ตัวเลข PPI ดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่ง คาดว่าตัวเลขออกมามากว่า -0.5% เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากนโยบายภาษีของทรัมป์ ทำให้ภาคการผลิตชะลอการสั่งซื้อ หากคราวนี้ตัวเลขสูงกว่า 0.2% (มากเกินคาด) จะส่งผลให้ CPI เดือนถัดไปมีโอกาสดีดตัวขึ้นสูง แต่คาดว่าจะไม่ค่อยมีผลมากนักสำหรับข่าวประกาศในครั้งนี้
  • ติดตามสถานะการณ์ความขัดแย้ง สหรัฐ – อิหร่าน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันโดยตรง

โดย Trin Anuwattanawong