สรุป Gold และภาวะตลาดต่างประเทศ

2 ก.พ. 2024

ราคา Gold ทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 17.70 ดอลลาร์ สู่ 2,054.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 2,065.19 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. ในขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐพุ่งขึ้น 9,000 ราย สู่ 224,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ม.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 212,000 ราย ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้ โดยโพลล์รอยเตอร์คาดว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจปรับขึ้น 180,000 รายในเดือนม.ค. Gold

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันพฤหัสบดี หลังจากมีข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า มีการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กาตาร์กล่าวต่อรอยเตอร์ว่า ยังไม่มีการหยุดยิงกันในตอนนี้ แต่กลุ่มฮามาสแสดงออกในทางบวกต่อข้อเสนอหยุดยิงที่ได้รับในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากข่าวที่ว่า บริษัทบีพีประกาศในวันพฤหัสบดีว่า ทางบริษัทกำลังจะให้โรงกลั่นน้ำมันในเมืองไวทิง รัฐอินเดียนา ซึ่งมีกำลังการผลิต 435,000 บาร์เรลต่อวัน ปิดทำการชั่วคราว หลังจากเกิดเหตุไฟฟ้าดับในเมืองนั้น 
  ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนมี.ค.รูดลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.7% มาปิดตลาดที่ 73.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนดิ่งลง 1.85 ดอลลาร์ หรือ 2.5% มาปิดตลาดที่ 78.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
• ตลาดหุ้นสหรัฐดีดขึ้นในวันพฤหัสบดีหลังจากที่เพิ่งดิ่งลงในวันพุธ ในขณะที่นักลงทุนบางรายมองว่าตลาดหุ้นดิ่งลงมากเกินไปแล้วในวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณในวันพุธว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. โดยในช่วงนี้นักลงทุนรอดูผลประกอบการของบริษัทสหรัฐหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์, อะเมซอนดอทคอม และแอปเปิลที่จะเปิดเผยออกมาหลังจากตลาดปิดทำการในวันพฤหัสบดี และนักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์ด้วย ทั้งนี้ ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐนั้น หุ้น 10 กลุ่มปิดตลาดวันพฤหัสบดีในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในวันพฤหัสบดีคือดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่พุ่งขึ้น 1.98% ส่วนอันดับสองคือดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นที่ทะยานขึ้น 1.97% อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐปิดร่วงลง 1.4% และดัชนี KBW สำหรับหุ้นธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐดิ่งลง 2.3% โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นธนาคารนิวยอร์ค คอมมูนิที แบงคอร์ป ที่ดิ่งลง 11.1% ในวันพฤหัสบดี หลังจาก NYCB รายงานเรื่องความเสียหายในพอร์ตลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ 
• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวกขึ้น 0.97% สู่ 38,519.84
• ดัชนี S&P 500 ปิดพุ่งขึ้น 1.25% สู่ 4,906.19
• ดัชนี Nasdaq ปิดทะยานขึ้น 1.30% สู่ 15,361.64
• ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเยนและยูโรในวันพฤหัสบดี ในขณะที่นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ ใกล้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ถึงแม้นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวในวันพุธว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมี.ค.ก็ตาม ทั้งนี้ นายพาวเวลล์กล่าวในวันพุธว่า อัตราดอกเบี้ยได้แตะจุดสูงสุดของวัฏจักรไปแล้ว และจะปรับลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงต่อไป และมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจและการจ้างงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้ประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ, ไม่ได้ประกาศว่าเฟดประสบความสำเร็จแล้วในการทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และไม่ได้ให้สัญญาว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. ทางด้านเทรดเดอร์คาดการณ์กันในวันพฤหัสบดีว่า มีโอกาส 39% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมี.ค. และมีโอกาส 94% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงภายในเดือนพ.ค. 
  ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 103.05 ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยร่วงลงจาก 103.61 ในช่วงท้ายตลาดวันพุธดอลลาร์/เยนอยู่ที่ 146.42 เยนในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยปรับลงจากระดับปิดตลาดวันพุธที่ 146.88 เยนยูโร/ดอลลาร์อยู่ที่ 1.0872 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี โดยแข็งค่าขึ้นจาก 1.0816 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพุธ หลังจากดิ่งลงแตะ 1.0780 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.
• Reuters