กลยุทธ์การลงทุน Crude Oil (WTI) ประจำวันที่ 16 พ.ค.2568
16 พ.ค. 2025
Day โครงสร้างเทรนด์ขาลงในกรอบ Channel ขาลง วานนี้หลังราคาเคลื่อนที่ชนกรอบเทรนด์ไลน์ขาลง + Supply H4 + สัญญาณ Bearish Divergence ราคาปรับตัวร่วงลงเป็นวันที่ 2 ราคาร่วงลงในช่วงเช้าก่อนที่จะ rebound ทางเทคนิคในช่วงบ่าย (Oversold H1) สามารถกลับมาในโซน SRF H4 (กรอบที่ให้ไว้) ได้สำเร็จ ปิดแท่งรายวัน Bearish Hammer
สัญญาน้ํามันดิบ WTI ปีที่$ 61.62 บาร์เรล ลดลง 2.42% ปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน นอกจากรายงานน้ำมันดิบคงคลังล้นคาดการณ์ ทั้ง 2 ฉบับ(API และ EIA) แล้วยังมีปัจจัยจากคาดการณ์นักลงทุน สหรัฐฯ-อิหร่าน จะบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ในเร็วๆนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้มาตรการคว่ำบาตรผ่อนคลายลง และมีการปล่อยน้ำมันดิบเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น
อิหร่านยื่นข้อเสนอ ยกเลิกคว่ำบาตรทางน้ำมัน เพื่อแลกกับข้อตกลงนิวเคลียร์… อุปทานน้ำมันล้นตลาดหากสามารถส่งออกได้อีกครั้ง
- ทรัมป์กล่าว “สหรัฐกำลังบรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับอิหร่าน” หลังอิหร่านยอม “ไม่พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และจำกัดสรรถนะยูเรเนียมที่ 3.67%” ตามข้อตกลง JCPOA เพื่อแลกกับการ ”ยกเลิกการคว่ำบาตรส่งน้ำมันของอิหร่าน ทั้งนี้ยังคงรอสรุปวันสำหรับการเจรจารอบใหม่อีกทีหนึ่ง
ประกาศตัวเลข PPI ของสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด 0.5%…กดดัน USD (ปัจจัยบวกน้ำมันมันระยะสั้น)
- ประกาศตัวเลข PPI ออกมา – 0.5% ซึ่งเป็นตัวเลขแย่ที่สุดในรอบ 5 ปี สะท้อน”การหดตัวของกำไรของภาคการผลิต” เช่นกัน ซึ่งมาจากภาคการผลิตในสหรัฐที่ต้องแบกรับผลจากมาตราการภาษีทรัมป์ในช่วงทีผ่านมา ในขณะที่ตัวเลขยอดค้าปลีกอยู่ในระดับต่ำกว่าเดือนที่แล้ว 0.1% ส่งผลให้ USD ร่วงลง(ระยะสั้น)เป็นปัจจัยให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวในช่วงคืนที่ผ่านมา
Fed ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย ระยะยาว… ปัจจัยบวกต่อ USD(DXY) กดดัน ราคาน้ำมัน
- เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าว อัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนแปลงและนโยบายยังมีความไม่แน่นอน โดยพาวเวลล์ชี้ให้เห็นว่า สภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว เฟดเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง ส่งผลให้ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเป็นประวัติการณ์ พร้อมระบุว่า แม้ความคาดหวังเงินเฟ้อระยะยาวจะสอดคล้องกับเป้าหมาย 2% ของเฟด แต่ยุคของอัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์คงไม่กลับมาในเร็ววัน
การเจรจาการค้า สหรัฐ-นานาชาติดีเกินคาด ขณะที่ญี่ปุ่นเสี่ยงภาวะถดถอย , ทรัมป์ ปิดดิลสำเร็จระหว่างเดินทางตะวันออกกลาง
- การเจรจาการค้า สหรัฐ- จีน,อังกฤษและหลายๆประเทศออกมาในเชิงบรรลุข้อตกลง ยกเว้นเพียง สหภาพยุโรป และ ญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นติดเรื่องการขนส่งรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ไปสหรัฐยังคงต้องเสียภาษี 25% แม้ว่าการเจรจาผ่านมา 3 รอบแล้วก็ตาม
- เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวครั้งแรกในรอบปี แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจ ก่อนที่จะได้รับผลกระทบเต็มที่จากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยรายงานจากสำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ปรับอัตราเงินเฟ้อแล้ว หดตัวลง 0.7% ในช่วงไตรมาสแรกของปี เมื่อเทียบรายปี และหดตัว 0.2% ในไตรมาสที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเป็นสัญญาณว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคในไตรมาสนี้
- 14 พ.ค. ลงนามทางการค้าร่วมกับสาอุดิอาระเบีย ด้วยข้อตกลง 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ , ตลอดจนการเจรจาขายอาวุธ และร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ร่วมกัน อีกทั้งยังประกาศยุติการคว่ำบาตรซีเรีย ซึ่งส่งผลให้ซีเรียไม่ต้องพึ่งพาอิหร่านอีกต่อไป
- สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อส่งออกชิป AI ที่ทันสมัยที่สุดของ Nvidia จำนวน 500,000 ชิ้นต่อปี เริ่มตั้งแต่ปี 2025 -2030
H4 /H1 โครงสร้างเป็นเทรนด์ขาขึ้น ราคาเคลื่อนที่ไซด์เวย์ออกข้าง หลังราคาสามารถยืนเหนือแนวรับ Demand H4 ขึ้นไปได้ แต่ยังคงไม่สามารถผ่าน SRF ได้เน้นการคำกำไรในกรอบไซด์เวย์ที่ 61.786-60.060
แนะนำ
- เปิดสถานะขาย(รอสัญญาณขาย) ที่กรอบ61.804-61.240 / SL 62.200 เพื่อทำกำไร 60.965/60.740/60.209/59.452/58.985
แนวรับ 59.544/58.496/57.903
แนวต้าน 62.473/63.171/64.430

โดย Trin Anuwattanawong